พอตั้งค่า settings เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องเลือกไดรฟ์ backup ให้ถูกต้อง (ปกติตามค่า default จะเป็น external drive) 5 คลิก "Turn on". ถ้าตั้ง settings ถูกแล้ว ให้คลิก "Turn on" เพื่อเริ่มขั้นตอนการ backup ปกติการ backup ครั้งแรกจะใช้เวลานานหน่อย ทางที่ดีให้เริ่มตอนกลางคืนหรือก่อนไปทำงาน จะได้เป็นช่วงที่ไม่ใช้คอม จากนั้นก็ปล่อยเป็นหน้าที่ของคอม เพราะคุณทำทุกอย่างที่ทำได้แล้ว! โฆษณา เสียบอุปกรณ์เก็บข้อมูลกับคอมที่จะ backup. โดยใช้สาย USB หรือเชื่อมต่อด้วยวิธีอื่นๆ ปกติเสียบแล้วจะมีหน้าต่างโผล่มาอัตโนมัติ ถามว่าจะใช้ backup Time Machine ไหม จากนั้นเลือกว่าจะเข้ารหัสหรือเปล่า แล้วคลิก "Use as Backup Disk" ถ้าไม่มีหน้าต่างโผล่มาอัตโนมัติ ให้เปิดเองโดยเข้า Time Machine ใน System Preferences 3 เริ่ม backup. คอมจะเริ่ม backup อัตโนมัติ ก็ปล่อยให้ทำไป แต่ถ้า backup ครั้งแรกก็แน่นอนว่าต้องรอนานหน่อยกว่าจะเสร็จ ทางที่ดีให้เริ่มตอนกลางคืนหรือก่อนไปทำงาน จะได้ไม่ต้องนั่งรอ 4 ปรับ Settings. คุณเปิดหน้าต่าง Time Machine ใน System Preferences แล้วเปลี่ยน settings ได้ โดยคลิกปุ่ม "Options" ที่มุมขวาล่าง แล้วเลือกว่าจะไม่ backup อะไรบ้าง, ตั้งการแจ้งเตือน (notifications) และตัวเลือกใช้งานแบตเตอรี่ 1 เสียบ iPad กับคอมที่มี iTunes เวอร์ชั่นล่าสุด.
การเลือกสถานที่วางคอมพิวเตอร์ให้ถูกหลัก ไม่ควรวางชิดกำแพงมากเกินไป ควรวางคอมพิวเตอร์ห่างจากกำแพงอย่างน้อย 1 ฟุต เพราะเมื่อใช้งานคอมพิวเตอร์แล้วจะเกิดความร้อน การวางชิดกำแพงจะทำให้ไม่สามารถระบายความร้อนได้ดี ส่งผลให้เครื่องคอมพิวเตอร์จะมีอุณหภูมิสูงขึ้น และเป็นสาเหตุที่สำคัญที่ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานหนัก จนเสียได้ 2. ไม่ควรปล่อยให้คอมพิวเตอร์สกปรกหรือมีฝุ่นเกาะมากเกินไป การทำความสะอาดทำได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง เพียงแค่ถอดปลั๊กคอมพิวเตอร์ออก จากนั้นนำผ้าชุดน้ำเปล่านิดหน่อย หรือน้ำยาทำความสะอาดคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะเช็ดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งหมด หลังจากนั้นให้หาแปรงที่ขนมีความอ่อนนุ่มทำความสะอาดในบริเวณที่ไม่สามารถเช็ดได้ 3 วิธีดูแลรักษาคอมพิวเตอร์อย่างถูกวิธี ในส่วนของอุปกรณ์ซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์ คือ ส่วนของระบบปฏิบัติการภายในคอมพิวเตอร์ นั่นคือ โปรแกรม และแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ถูกติดตั้งอยู่ภายในฮาร์ดดิสก์ วิธีดูแลรักษาคอมพิวเตอร์อย่างถูกวิธีสำหรับซอฟต์แวร์ มีดังนี้ 1. ควรจัดระเบียบข้อมูลภายในคอมพิวเตอร์ให้เป็นหมวดหมู่ ไม่ควรนำไฟล์งานวางไว้บนหน้า Desktop มากจนเกินไป เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบในการใช้งาน การจัดระเบียนนี้นอกจากจะช่วยให้การค้นหาข้อมูลสะดวกแล้ว ยังทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ทำงานหนักจนเกินไปจนทำให้ทำงานช้าลงอีกด้วย 2.
ระวัง MicroSD Card ของปลอมกำลังระบาด มาหาคำตอบกันว่าแยกแยะ หรือตรวจสอบได้อย่างไร...? อย่างไรก็ดีทั้ง 7 วิธีเป็นเพียงแค่ข้อแนะนำเบื้องต้น ในการเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บ ซึ่งถ้าหากว่าจะลบแอปฯ หรือไฟล์ใดๆ ควรที่จะแบ็คอัพข้อมูลไว้ก่อนเสมอ เพื่อเป็นการป้องกันการความผิดพลาด และการลบโดยไม่ตั้งใจ บทความที่เกี่ยวข้อง
ตรวจสอบว่าการบันทึกภาพและวิดีโอถูกต้องแล้ว: นั่นก็เพราะว่าสมาร์ทโฟนสมัยใหม่ สามารถถ่ายภาพนามสกุล ได้ด้วย หรือไฟล์ดิบ ซึ่งเป็นไฟล์ขนาดใหญ่ ดังนั้นคุณต้องมองหาไฟล์ประเภท JPG เท่านั้น ส่วนวิดีโอก็จะมีไฟล์ประเภทใหม่เช่นกัน ประหยัดพื้นที่ แต่ได้คุณภาพของภาพเหมือนเดิม 5. ลบแคช (Cache) ของหน่วยความจำออก ซึ่งเมื่อเราใช้งานแอปฯ ใดบ่อยๆ ก็จะถูกจัดเก็บลงบน หน่วยความจำ ทำให้สิ้นเปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล เป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างแอปฯ ชื่อดังอย่าง Line ได้เลย ซึ่งสิ้นเปลืองพื้นที่การจัดเก็บอย่างมาก ทำได้โดยการเข้าไปที่เมนูการตั้งค่า -- แชท -- ประวัติ -- ลบไฟล์ในห้องแชท -- เลือกลบ ซึ่งคุณจะได้พื้นที่เก็บข้อมูลบางส่วนกลับคืนมา 6. ทางเลือกสตรีมมิ่ง: ยุคปัจจุบันมีบริการสตรีมมิ่งหลากหลาย ทั้งเพลง หรือคอนเทนต์วิดีโอ ซึ่งคุณแทบไม่ต้องจัดเก็บไว้ในเครื่องเลย แค่เปิดแอปพลิเคชั่นนั้นๆ ก็เพลิดเพลินกับความบันเทิงเต็มรูปแบบได้แล้ว รู้หรือไม่! สมาร์ทโฟนรุ่นใดรับชม Netflix ในระบบ HD และ HDR ได้บ้าง เวลาซื้อจะได้ไม่ผิดหวัง 7. มองหา MicroSD Card: หลายคนอาจไม่ทราบว่าพื้นที่เก็บข้อมูลภายในกับ MicroSD Card หรือหน่วยความจำภายนอกนั้นเป็นคนละอย่างกัน ซึ่งคุณสามารถซื้อมาใส่เพิ่มเติม สำหรับโอนย้ายภาพถ่าย หรือไฟล์ต่างๆ ที่ต้องการได้ แนะนำว่าควรซื้อ Class สูงๆ เข้าไว้ เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ไหลลื่น เตือนภัย!