2549) 1. การวิจัยแบบ 2 ภาค ( two- phase design) เป็นการวิจัยในรูปแบบที่แยกการดำเนินการเป็น 2 ขั้นตอนอย่างชัดเจนด้วยวิธีการที่แตกต่างกัน (การวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพครึ่งต่อครึ่ง) แล้วนำเสนอผลการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ตอนโดยเอกเทศ แต่ละตอนตอบคำถามวิจัยต่างประเด็น กันโดยมีบทสรุปเป็นตัวเชื่อมโยงการวิจัยทั้งสองตอนเข้าด้วยกัน 2. การวิจัยแบบนำ- แบบรอง (dominant – less dominant design) เป็นการวิจัยที่ดำเนินการด้วย วิธีการวิจัยหลักแนวทางใดแนวทางหนึ่ง แล้วเสริมด้วยอีกแนวทางหนึ่ง เช่นใช้การวิจัยเชิงปริมาณเป็นหลัก และใช้วิธีการบางอย่างของการวิจัยเชิงคุณภาพมาเสริม เช่น เพื่อขยายความ เพื่อตรวจสอบยืนยัน หรือเพิ่มความลึกของข้อมูล ในทางตรงกันข้ามอาจใช้การวิจัยเชิงคุณภาพเป็นหลักเสริมด้วยการวิจัย เชิงปริมาณ 3.
การวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพต่างก็มีจุดด้อยในตนเอง ผู้วิจัยสามารถนำจุดเด่น ของการวิจัยเชิงปริมาณมาแก้ไขจุดด้อยของการวิจัยเชิงคูณภาพ ขณะเดียวกันอาจใช้จุดเด่นของการวิจัยเชิงคุณภาพมาใช้แก้ไขจุดด้อยของการวิจัยเชิงปริมาณ 5.
Mixed Method วิจัยเชิงปริมาณ + วิจัยเชิงคุณภาพ วิทยานิพนธ์ทางการอุดมศึกษาที่ผ่านมามีทั้งระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ บางเล่มก็บอกว่าใช้ทั้งวิธีวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ แต่ตนเองยังหาไม่เจอว่ามีวิทยานิพนธ์ทางการอุดมศึกษาของนิสิตนักศึกษาโดยเฉพาะระดับปริญญาเอกเล่มใด ที่บอกว่าใช้ระเบียบวิธีวิจัยหรือรูปแบบการวิจัยแบบผสม ( Mixed Method) อาจเป็นเพราะรู้ว่าวิธีดำเนินการวิจัยยังไม่เข้าข่ายรูปแบบการวิจัยแบบผสม หรือเป็นเพราะยังไม่รู้จักว่าการวิจัยแบบผสมเป็นอย่างไร? ตนเองเป็นแบบหลังคือ ยังไม่รู้จักดีว่า Mixed Method ที่ถูกต้องเป็นอย่างไร คิดแต่ว่า ถ้าใช้ทั้งการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพรวมกันในงานวิจัยเล่มเดียวกันแล้ว ก็เรียกว่าเป็น Mixed Method ได้ … จนกระทั่งได้มีโอกาสฟังการบรรยายพิเศษในรายวิชาของนิสิตปริญญาเอก วิชา วิธีวิทยาการวิจัยการศึกษา 2 ซึ่งอาจารย์ผู้สอนเชิญ รศ. ดร. โยธิน แสวงดี จาก ม. มหิดล ต้นตำรับและผู้เชี่ยวชาญในการทำ Mixed Method มาบรรยายให้ฟัง ~ 2 ชม.
กานต์มณี สะพานควาย กรุงเทพฯ ค่าลงทะเบียนคนละ 3, 900 บาท วิทยากร คือ รศ. โยธิน แสวงดี ม. มหิดล ค่ะ... แต่เสียดายที่ผู้เขียนติดเรียนหนังสือ … เลยไปไม่ได้ … ใครไปได้หรือมีข้อมูลเพิ่มเติมมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ