2 คนในทุกๆ 100 คน มีแนวโน้มที่จะถูกลงโทษทางกายอย่างรุนแรง พ่อแม่และผู้ดูและเด็กเกือบครึ่ง เชื่อว่าการลงโทษทางร่างกายเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเลี้ยงดูหรืออบรมเด็ก มีเด็กมากกว่า 10, 000 คน ถูกกระทำรุนแรง ส่วนใหญ่เป็นการกระทำรุนแรงทางเพศ ในขณะเดียวกัน จำนวนเด็กที่ถูกกระทำรุนแรงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ข้อมูลจากศูนย์ช่วยเหลือสังคม (One-Stop Crisis Center - OSCC) เปิดเผยว่าใน พ. ศ. 2558 มีเด็กกว่า 10, 000 คน เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรัฐเนื่องจากความรุนแรง โดยประมาณสองในสามของเด็กเหล่านี้ถูกกระทำรุนแรงทางเพศ ส่วนใหญ่เป็นการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กหญิง และเนื่องจากการทำงานของระบบการคุ้มครองเด็กยังมีข้อจำกัด จึงเป็นไปได้ว่ายังมีการล่วงละเมิดอีกมากที่ไม่ได้รับรายงาน นอกจากนี้ ปัญหาเด็กและเยาวชนที่กระทำผิดยังคงน่าเป็นห่วง กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนเปิดเผยว่า ใน พ.
ศ.
เห็นว่า นอกจากเจ้าหน้าที่ของรัฐจะจัดเก็บตัวอย่างสารพันธุกรรมของชาวบ้านโดยอาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึกแล้ว ยังมีกระบวนการตรวจและจัดเก็บข้อมูลผลการตรวจสารพันธุกรรมภายใต้นโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกด้วย และเมื่อนโยบายดังกล่าวมิใช่บทบัญญัติแห่งกฎหมาย การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ของรัฐจึงย่อมมีความเสี่ยงที่จะจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุ และไม่สอดคล้องกับหลักความได้สัดส่วน อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน" วสันต์กล่าว วสันต์กล่าวต่อไปว่า ด้วยเหตุผลข้างต้น กสม.
เด็กถูกทอดทิ้งในประเทศไทยวันละ 8 คน โดยเฉพาะเด็กที่ติดเชื้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เด็กที่ถูกทอดทิ้ง 3 ใน 5 คน จะถูกอดทิ้งหลังคลอด เด็กที่ถูกทอดทิ้ง จำนวน 4 ใน 5 คน จะถูกทอดทิ้งหลังคลอด แม่ตั้งครรภ์นอกสมรส และต้องเลี้ยงลูกตามลำพัง แม่ของเด็กถูกทอดทิ้ง 1 ใน 10 คน แยกทางกับสามี ถูกข่มขืน หรือตั้งครรภ์กับคนในครอบครัว เด็กที่ถูกทอดทิ้งมักจะมีพัฒนาการช้ากว่าวัย 2. เด็กและเยาวชนที่ถูกทารุณเป็นเหยื่อของความขัดแย้งของครอบครัวและสังคม เด็ก 1 ใน 4 คนถูกทุบตีในบ้าน เท่าที่พบเด็กถูกทารุณอายุน้อยที่สุด 24 วัน ผู้กระทำในครอบครัวจะเคยพบเห็นและยอมรับการกระทำทารุณว่า ตนเองจะตบตีภรรยาหากกระทำตัวไม่ดี ส่วนเด็กที่ถูกกระทำทางเพศมีแนวโน้มอายุน้อยลง และผู้กระทำก็มีอายุน้อยลงน้อย ยังมีการละเลยไม่ช่วยเหลือเด็กจากสังคมเมื่อพบเห็นเด็กที่ถูกกระทำทารุณ 3. เด็กเร่ร่อน มีทั้งที่เร่ร่อนตามครอบครัวมาหางานทำในเมือง หรือเร่ร่อนตามลำพัง เฉพาะในเมืองใหญ่อาจมีถึงหมื่นคน เป็นชายมากกว่าหญิง เด็กเร่ร่อนจำนวน 1 ใน 6 จะเร่ร่อนถาวรเป็นขอทาน กินอยู่หลับนอนตามใต้สะพาน ตลาด วัด ส่วนใหญ่ไม่ได้เรียนหนังสือ สาเหตุที่เร่ร่อนเพราะหนีออกจากบ้านเพื่อนชวนมาเที่ยว พลัดหลง ขอทานหรือขายของตามสี่แยก ทั้งที่ทำงานด้วยตัวเองหรือเป็นเครื่องมือให้พ่อแม่ 4.