ศ.
00 น. ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กทม. ซึ่งมีพระราชาคณะและเกจิอาจารย์จากทั่วประเทศ อาทิ 1. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) วัดสระเกศ กทม. 2. สมเด็จพระมหาธีรจารย์ (นิยม ฐานิสฺสโร) วัดชนะสงคราม กทม. 3. สมเด็จพระญาณวโรดม (ประยูร สนฺตงฺกุโร) วัดเทพศิรินทร์ กทม. 4. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร) วัดสัมพันธวงศาราม กทม. 5. สมเด็จมหารัชมัคลาจารย์ (ช่วง วรปุณฺโณ) วัดปากน้ำ กทม. 6. หลวงปู่ทิม วัดพระขาว อยุธยา 7. หลวงพ่อรวย วัดตะโก อยุธยา 8. หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว อยุธยา 9. หลวงพ่อพูล วัดบ้านแพน อยุธยา 10. หลวงพ่อเจือ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม 11. หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง เพชรบุรี 12. หลวงพ่อแย้ม วัดตะเคียน นนทบุรี 13. หลวงพ่อพูลทรัพย์ วัดอ่างศิลา ชลบุรี 14. หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดศาลาปูน อยุธยา 15. หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม อยุธยา 16. หลวงพ่อทอง วัดพระธาตุจอมทอง เชียงใหม่ 17. หลวงพ่อเนื่อง วัดระฆังโฆสิตาราม กทม. 18. หลวงพ่อทองสืบ วัดอินทรวิหาร กทม. 19. หลวงปู่แหวน วัดมหาธาตุ กทม. 20. หลวงพ่อธงชัย วัดไตรมิตร กทม. 21. หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดไทรน้อย นนทบุรี 22. หลวงพ่อเก๋ วัดปากน้ำ ปทุมธานี 23. หลวงพ่อทองใบ วัดสายไหม ปทุมธานี 24.
ปราจีนบุรี และหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จ. กาญจนบุรี เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเป็นสหธรรมิกกับพระเกจิชื่อดังอีกหลายรูป อาทิ หลวงพ่อเสือ วัดไผ่สามกอ ผู้เชี่ยวชาญด้านทำน้ำมนต์, หลวงพ่อนก วัดสังกะสี ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน, หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก, หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม, หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ฯลฯ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย รักสมถะ มีเมตตาธรรมสูงส่ง มุ่งทำนุบำรุงบวรพุทธศาสนา สร้างศาสนสถานและศาสนวัตถุต่างๆ ภายในวัดสาวชะโงก และวัดวาอารามอื่นๆ ใน จ. ฉะเชิงเทรา และใกล้เคียง ตั้งแต่ยังเป็นพระลูกวัด จนปีพ. 2461 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าอาวาสวัดสาวชะโงก และในปีพ. 2474 ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดสาวชะโงก ปกครองและพัฒนาวัดอย่างต่อเนื่อง จนวัดเจริญรุ่งเรืองเป็นที่เชิดหน้าชูตา ทั้งยังพัฒนาด้านการศึกษาแก่กุลบุตรกุลธิดา ได้สร้างโรงเรียนประชาบาลขึ้นที่วัดสาวชะโงก ชื่อ โรงเรียนวัดสาวชะโงก (นันทประชาสรรค์) เป็นพระเกจิที่มีคุณวิเศษในหลายด้าน มักได้รับนิมนต์เข้าร่วมพิธีปลุกเสกใหญ่เสมอ นอกจากนี้ เมื่อครั้งสงครามอินโดจีน ก็เป็น 1 ในพระเกจิที่สร้างผ้ายันต์แดง แจกทหารในสงคราม แต่ที่โดดเด่นเป็นที่กล่าวถึงคือ ปลัดขิก ด้วยสังขารไม่เที่ยง หลวงพ่อเหลือมรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันศุกร์ที่ 19 ม.
2549 เป็นปีมหามงคลของปวงชนชาวไทยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ยาวนานกว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใดในโลก และในปี พ. 2550 เป็นปีที่พระองค์ท่านจะมีพระชนมายุ 80 พรรษา จึงเป็น โอกาสสมควรยิ่งที่พสกนิการชาวไทยทั่วประเทศจะได้ถวายความจงรักภักดีร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์ เพื่อจัดสร้างอาคารเรียนของวิทยาลัยแห่งนี้ มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ร่วมกับ วิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวล ได้จัดสร้างพระเครื่องยอดนิยม ชุด "พระเบญจภาคี ภ. " ขึ้นเพื่อมอบให้กับผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคทรัพย์สร้างอาคารเรียนแห่งนี้ ทั้งนี้ ทางวิทยาลัยได้รับพระมหากรุณาธิคุณสูงยิ่งโดยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญอักษรพระปรมาภิไธย ภ. ประดิษฐานที่ด้านหลัง พระเครื่องบูชาชุดนี้ทุกองค์จึงขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าได้รวมพลังถวายความจงรักภักดี แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยการสั่งจองพระเครื่องบูชาชุด " พระเบญจภาคี ภ. " นำรายได้จากการบริจาคไปจัดสร้างอาคารวิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวลแห่งที่ 2 เฉลิมพระเกียรติพระองค์ท่านให้ขจรขจายยิ่งๆ ขึ้นไป พิธีมหาพุทธาภิเษก ในวันที่ 29 พ. ย. 2549 เวลา 17.